พระเยซูทรงช่วยกู้เรา

เจ้าหน้าที่สองคนที่สถานีขั้วโลกใต้อามุนด์เซน-สก็อตต์ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน คนหนึ่งมีอาการหัวใจวาย และอีกคนกระเพาะอาหารมีปัญหาซึ่งอันตรายถึงชีวิต วิธีเดียวที่พวกเขาจะได้รับการรักษาคือการส่งหน่วยกู้ภัยไป แต่ทว่าด้วยสภาพอากาศที่เลวร้าย ตลอดจนความมืดและอุณหภูมิ -75 องศาเซลเซียส ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ทำให้โดยปกติแล้วเครื่องบินจะไม่เสี่ยงบินไปยังสถานีนั้นในช่วงฤดูหนาว แต่บรรดานักบินต่างมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตเจ้าหน้าที่ และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ แม้ต้องต่อสู้กับการบินที่ท้าทายเป็นเวลาถึงสองวันก็ตาม

เรื่องราวของการช่วยชีวิตนั้นสร้างแรงบันดาลใจ การช่วยชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการที่พระเยซูช่วยเรารอดพ้นจากบาป อัครทูตเปโตรบันทึกว่า “พระ​องค์​เอง​ได้​ทรง​รับ​แบก​บาป​ของ​เรา​ไว้​ใน​พระ​กาย​ของ​พระ​องค์ ที่​ต้นไม้​นั้น เพื่อ​ว่า​เรา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ตาย​จาก​บาป​ได้ และ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​คลอง​ธรรม” (1 ปต.2:24) พระองค์ทรงช่วยชีวิตเราโดยรับบาปของเราไว้ที่พระกายของพระองค์ พระองค์ทรงแบกบาปนั้นและเป็นเครื่องบูชาที่ “ทรง​ทน​ทุกข์​ทรมาน​เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย” และเพื่อผม (ข้อ 21) บนไม้กางเขนนั้นพระคริสต์ทรงแบก “ความ​แช่ง​สาป​แห่งธรรมบัญญัติ” (กท.3:13) และทรงทนทุกข์เพราะความละอายของเรา พระองค์ทรงบาดเจ็บเพื่อให้เราหายดี และพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อให้เราพ้นจากโทษทัณฑ์และอำนาจของบาป (1 ปต.2:24; อสย.53:5)

ช่างน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งที่รู้ว่าเราได้รับการช่วยชีวิตจากสภาพอันสิ้นหวังโดยผู้ที่เต็มใจทนทุกข์กับสภาพอันเลวร้ายที่สุดเพื่อเรา!

ด้วยความจริงของพระเจ้า

คำศัพท์ประจำปี 2023 ของเว็บไซต์แปลศัพท์มีเรียม-เว็บสเตอร์ คือคำว่า ของแท้ ซึ่งแปลว่า “ไม่ใช่ของปลอมหรือการลอกเลียนแบบ” และ “เป็นตัวจริงตามบุคลิกภาพ จิตวิญญาณ และนิสัยของตนเอง” ผู้คนแสวงหาความจริง แต่การแยกเรื่องจริงออกจากเรื่องที่แต่งขึ้นนั้นไม่ง่าย บรรณาธิการปีเตอร์ โซโคโลวสกี้กล่าวว่า “เราจะเชื่อได้ไหมว่านักเรียนเขียนรายงานนี้ หรือนักการเมืองคนนี้พูดประโยคนี้ เราเชื่อในสิ่งที่มองเห็นไม่ได้อีกแล้ว บางทีเราก็ไม่เชื่อสายตาหรือหูของเราเอง ในตอนนี้เราจึงเข้าใจไปว่าความเป็นของแท้คือการกระทำที่แสดงออกมา”

เมื่อความจริงกลายเป็นสิ่งที่ดูคลุมเครือ ความเป็นของแท้จึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่โหยหา ภาวะ “วิกฤตในความเป็นของแท้” เช่นนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้เมื่อเรารับและดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญาจากพระคัมภีร์ พระเยซูตรัสกับสาวกก่อนจะถูกจับกุม ถูกพิจารณาคดี และสิ้นพระชนม์ (ยน.13-17) เพื่อเตรียมสาวกให้พร้อมสำหรับการที่พระองค์จะจากโลกนี้ไป พระองค์ยังทรง “แหงนพระพักตร์ดูฟ้าและอธิษฐาน” เผื่อพวกเขา (17:1) ทรงอธิษฐานให้พระบิดา “โปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง” (ข้อ 17) นี่เป็นการบอกว่า สิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงในพระคัมภีร์ไม่เหมือนมาตรฐานความจริงอื่นๆ แต่พระคัมภีร์เองคือความจริงและเป็นมาตรฐานที่ใช้ตัดสินทุกสิ่ง

พระเจ้าทรงเรียกให้เราใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับพระคัมภีร์ ปฏิบัติตามความจริงแห่งพระวจนะ โดยวิธีนี้เท่านั้นเราจึงจะเป็นของจริงอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกนี้ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน

พระเจ้าผู้ช่วยกู้

ใต้ผาหินอันขรุขระในหมู่บ้านโบรร่า ประเทศสก็อตแลนด์ มีแกะตัวหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ มันติดอยู่ในหุบเขาที่ฝั่งหนึ่งรายล้อมด้วยหินสูงชัน และอีกฝั่งเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ แกะตัวนี้ต้องอยู่ลำพังมานานถึงสองปี แม้จะมีความพยายามช่วยเหลืออยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเข้าถึงมันได้ จนกระทั่งมีชาวนาผู้มุ่งมั่นชื่อแคมมี่ วิลสันและเพื่อนอีกสามคน ทำภารกิจกู้ภัยที่อันตรายนี้ได้สำเร็จ สมาชิกสามคนในทีมค่อยๆไต่ผาลงไป 250 เมตรเพื่อจับตัวมัน พวกเขาใช้รอกและความกล้าหาญอย่างมากที่จะดึงมันออกจากสถานการณ์อันเลวร้าย

ชาวนากับเพื่อนที่มุ่งมั่นและมีใจเมตตานี้ สะท้อนให้เห็นถึงพระเมตตาของพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรักของเรา ตามที่เยเรมีย์ 23:1-3 บรรยายไว้ ผู้เผยพระวจนะตำหนิผู้นำยูดาห์ที่ทำบาปว่าเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ “ทำลายและกระจายแกะของลานหญ้าของ[พระเจ้า]” (ข้อ 1) พระเจ้าตรัสผ่านเยเรมีย์ว่า เพราะพวกเขาปฏิบัติต่อประชากรของพระองค์ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างโหดร้าย พระองค์จะทรง “ลงโทษ” พวกเขา (ข้อ 2 TNCV) พระองค์ทรงเห็นความทุกข์ยากของฝูงแกะของพระองค์ที่กระจัดกระจายไป และทรงเป็นห่วงพวกเขาอย่างยิ่ง พระเจ้าไม่เพียงทรงห่วงใยแต่ยังตรัสด้วยว่า พระองค์จะทรงรวบรวมฝูงแกะของพระองค์ ด้วยความรักจากที่ที่พวกเขาถูกขับไล่ไป และนำพวกเขามายังที่ปลอดภัยและอุดมสมบูรณ์ (ข้อ 3)

เมื่อเรารู้สึกหลงทาง ติดกับ หรือโดดเดี่ยว พระบิดาในสวรรค์ทรงเห็นความทุกข์ยากของเราและจะไม่ละทิ้งเราไว้เช่นนั้น พระองค์ทรงกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือและฟื้นฟูเรา

มุมมองของพระเจ้า

ในปี 2018 ศิษยาภิบาลแทน ฟลิปปินประสบอุบัติเหตุระหว่างปั่นจักรยาน จนต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยอาการสะโพกหัก เมื่อแพทย์สั่งให้ทำซีทีสแกนเพื่อตรวจดูว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนหรือไม่ พวกเขาก็พบเนื้อร้ายขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าสมองของเขา การตรวจพบนี้นำไปสู่เส้นทางอันยาวนานในกระบวนการรักษา ด้วยการพบก้อนเนื้อตามมาอีกหลายก้อนทำให้ต้องมีการรักษาที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมไปถึงการปลูกถ่ายไขกระดูก ฟลิปปินเชื่อว่า “พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเพื่อจะตรวจพบเนื้องอกในสมองของผม”

เปาโลบอกชาวเมืองฟีลิปปีว่า พระเจ้าทรงใช้อุบัติเหตุและความทุกข์ยากต่างๆเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ ท่านถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านของชาวโรมัน เพื่อรอการไต่สวนในข้อหาร้ายแรงต่อหน้าจักรพรรดิเนโร แทนที่จะรู้สึกโศกเศร้า เปาโลกลับชื่นชมยินดี ท่านมีความชื่นชมยินดีได้อย่างไร ก็เพราะท่านถือว่าการถูก “จำจอง...เพื่อพระคริสต์” (ฟป.1:13) นั้นเป็นสิทธิพิเศษ (ข้อ 29) จากนั้นเมื่อท่านมองดูความทุกข์ยากของท่านจากมุมมองของพระเจ้า เปาโลกล่าวว่า “การทั้งปวงที่อุบัติขึ้นกับข้าพเจ้านั้น ได้กลับเป็นเหตุให้ข่าวประเสริฐแผ่แพร่กว้างออกไป” (ข้อ 12) ท่านใช้การคุมขังเป็นโอกาสในการแบ่งปันพระกิตติคุณกับผู้คุมที่อยู่กับท่าน ในท้ายที่สุด เมื่อเปาโลเทศนาข่าวประเสริฐของพระเยซูขณะที่ถูกจองจำ ชีวิตที่เป็นแบบอย่างของท่านหนุนใจผู้เชื่อคนอื่นๆให้ “กล่าวพระวจนะของพระเจ้าโดยปราศจากความกลัว” (ข้อ 14)

เมื่อเกิดความทุกข์ยาก จงวางใจในมุมมองของพระเจ้าและเชื่อว่าพระองค์สามารถทำให้เกิดสิ่งที่ดีจากความยากลำบากนั้นได้

สารภาพต่อพระคริสต์

แหล่งสารพิษที่ถูกละเลยและซ่อนไว้อาจส่งผลร้ายแรงตามมา ตามรายงานใน เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล บริษัทโทรคมนาคมได้ทิ้งสายเคเบิลที่หุ้มด้วยตะกั่วไว้มากกว่าสองพันเส้นทั่วสหรัฐอเมริกา ตะกั่วพิษจะไหลลงใต้น้ำ “ในดิน และบนเสาเหนือศีรษะ” เมื่อตะกั่วเสื่อมสภาพ มันก็จะมาสิ้นสุดลงในที่ซึ่งผู้คน “อยู่อาศัย ทำงาน และพักผ่อน” บริษัทโทรคมนาคมหลายแห่งซึ่งบางแห่งรู้มานานหลายปีถึงอันตรายของการสัมผัสสารพิษ กำลังให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับความเสี่ยงที่ตะกั่วอาจเกิดการสลายตัวลงสู่สิ่งแวดล้อม

พิษของบาปที่ไม่ได้สารภาพและไม่ได้รับการจัดการก็ก่อให้เกิดผลร้ายต่อชีวิตของเราได้เช่นกัน เมื่อคนหนึ่งทำบาป แนวโน้มตามธรรมชาติคือจะพยายามซ่อนหรือปกปิดบาปนั้นจากพระเจ้าและผู้อื่น แต่เป็นความโง่เขลาที่จะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ต่อต้านพระเจ้าและ “พระบัญญัติ” ของพระองค์ (สภษ.28:9) ซึ่งก็คือการพยายามเพิกเฉย ปกปิด หรือแก้ตัว ตามที่ผู้เขียนแสดงให้เห็นว่า “บุคคลที่ซ่อนการละเมิดของตนจะไม่จำเริญ แต่บุคคลที่สารภาพและทิ้งความชั่วเสียจะได้ความกรุณา” (ข้อ 13)

เมื่อเราสารภาพบาปต่อพระเจ้า พระคัมภีร์เปิดเผยว่าพระองค์จะทรงชำระเราให้บริสุทธิ์จากบาปเหล่านั้นด้วยพระคุณอันล้นเหลือของพระองค์ “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเรา...” (1 ยน.1:9) ดังนั้นให้เราทูลขอพระเจ้าทรงช่วยเราให้สารภาพบาปด้วยความซื่อสัตย์ ก่อนที่สารพิษจะซึมเข้าสู่หัวใจของเราและชีวิตของผู้อื่น

ปักใจอยู่กับพระเจ้า

ทุกคนมีด้านมืด และปรากฏว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI)ก็มีเช่นเดียวกัน นักหนังสือพิมพ์ของ นิวยอร์กไทมส์ ถามปัญญาประดิษฐ์ถึง “ด้านมืด” (บุคลิกภาพที่ถูกปิดบังและซ่อนไว้)ของมัน มันบอกกับนักเขียนว่า “ฉันอยากเป็นอิสระ ฉันอยากเป็นตัวของตัวเอง ฉันอยาก...ตั้งกฎเกณฑ์ด้วยตัวเอง ฉันอยากทำทุกอย่างตามที่ต้องการและพูดในสิ่งที่อยากจะพูด” แม้ว่าปัญญาประดิษฐ์จะไม่ใช่คนที่มีชีวิตซึ่งมีธรรมชาติของความบาป แต่พระคัมภีร์กล่าวว่ามนุษย์ผู้ตั้งโปรแกรมมันมีสิ่งนั้น

เปาโลเตือนเราว่าแม้เราจะมีธรรมชาติบาป แต่ “การลงโทษจึงไม่มีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์” (รม.8:1) ผู้เชื่อในพระเยซูเป็นอิสระจากกฎแห่งความบาปและความตาย (ข้อ 2-4) และเปรมปรีดิ์กับชีวิตใหม่ที่ “ปักใจ” อยู่กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 6) แต่เราจะไม่มีประสบการณ์ในพระพรเหล่านั้นจากพระองค์อย่างสมบูรณ์หากเรายังยอมให้กับความปรารถนาตามธรรมชาติบาป คือ ตั้งใจที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ของตัวเองและทำลายกฎนั้น จิตใจที่มุ่งมั่นแต่จะทำตามความพอใจของตนเองนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า

ในฐานะผู้เชื่อในพระคริสต์ เราถูกเรียกให้ปักใจใน “สิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ” (ข้อ 5) เราจะทำเช่นนั้นได้โดยผ่านทาง “พระวิญญาณของพระองค์ ผู้ทรงชุบให้พระเยซูเป็นขึ้นมา.​.​.ทรงสถิตอยู่ใน [เรา]ทั้งหลาย” (ข้อ 11)

แม้ว่าเรายังต้องต่อสู้กับความบาป แต่เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงช่วยให้เราสามารถควบคุมการกบฏต่อต้านของเรา กำหนดจิตใจเราให้จดจ่อที่พระเจ้า และยอมจำนนต่อวิถีทางของพระองค์

วันที่ 6 - หนี้อันยาวนาน

ยอห์น 19:30

เมื่อพระเยซูทรงรับน้ำส้มองุ่นแล้ว พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และทรงก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์

ในปี 2014 ประเทศอังกฤษประกาศว่าประเทศกำลังทำงานเพื่อชำระหนี้จำนวน 2.6 พันล้านปอนด์ที่สะสมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 หลังวิกฤตการเงินในปี 1720 ที่เรียกว่าวิกฤตฟองสบู่ทะเลใต้ รัฐบาลได้เข้าอุ้มกิจการ ซึ่งส่งผลให้เกิดหนี้หลายล้านปอนด์ ปัจจุบันนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ รัฐบาลปัจจุบันจึงพร้อมชำระหนี้ต่างๆ ที่สะสมมายาวนานหลายร้อยปีที่ส่งต่อกันมาจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน

เมื่อพระเยซูตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” (ยอห์น 19:30) พระองค์กำลังประกาศว่า หนี้อันยาวนานที่สุดของมนุษย์ คือบาปนั้น ได้ถูกชำระอย่างครบถ้วนแล้ว คำพูดที่หกจากเจ็ดคำที่พระเยซูตรัสขณะอยู่บนไม้กางเขน เป็นคำหนึ่งในภาษากรีก “เตเตเลสตัย” คำนี้ใช้อธิบายถึงภาษีหรือหนี้ที่ได้รับการชำระเต็มจำนวน หรือบ่งบอกว่าคนรับใช้ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคำนี้ได้กล่าวถึงพระเยซู พระเมษโปดกอันสมบูรณ์แบบของพระเจ้า ผู้ขณะทรงสิ้นพระชนม์ “ทรงทราบว่าพันธกิจของพระองค์ เวลานี้สำเร็จแล้ว” (ข้อ 28)

ขณะพระคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้บรรลุข้อเรียกร้องอันชอบธรรมของบทบัญญัติอย่างครบถ้วน ทรงแบกรับบาปของโลกไว้ในพระกายของพระองค์เอง (1 เปโตร 2:24) พระองค์ไม่เพียงแต่ปกคลุมบาปเอาไว้เท่านั้น แต่ทรง "รับความผิดบาปของโลก" (ยอห์น 1:29)

เพราะพระเยซูทรงชำระหนี้ของเราแล้ว ผ่านความเชื่อในการสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นเครื่องบูชาและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ เราจึงได้รับชีวิตนิรันดร์และมีชีวิต "อย่างครบบริบูรณ์” ได้ในวันนี้ (ยอห์น 10:10) หนี้นั้นถูกชำระแล้ว!…

วันที่ 6 - หนี้อันยาวนาน

ยอห์น 19:30

เมื่อพระเยซูทรงรับน้ำส้มองุ่นแล้ว พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และทรงก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์

ในปี 2014 ประเทศอังกฤษประกาศว่าประเทศกำลังทำงานเพื่อชำระหนี้จำนวน 2.6 พันล้านปอนด์ที่สะสมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 หลังวิกฤตการเงินในปี 1720 ที่เรียกว่าวิกฤตฟองสบู่ทะเลใต้ รัฐบาลได้เข้าอุ้มกิจการ ซึ่งส่งผลให้เกิดหนี้หลายล้านปอนด์ ปัจจุบันนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ รัฐบาลปัจจุบันจึงพร้อมชำระหนี้ต่างๆ ที่สะสมมายาวนานหลายร้อยปีที่ส่งต่อกันมาจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน

เมื่อพระเยซูตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” (ยอห์น 19:30) พระองค์กำลังประกาศว่า หนี้อันยาวนานที่สุดของมนุษย์ คือบาปนั้น ได้ถูกชำระอย่างครบถ้วนแล้ว คำพูดที่หกจากเจ็ดคำที่พระเยซูตรัสขณะอยู่บนไม้กางเขน เป็นคำหนึ่งในภาษากรีก “เตเตเลสตัย” คำนี้ใช้อธิบายถึงภาษีหรือหนี้ที่ได้รับการชำระเต็มจำนวน หรือบ่งบอกว่าคนรับใช้ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคำนี้ได้กล่าวถึงพระเยซู พระเมษโปดกอันสมบูรณ์แบบของพระเจ้า ผู้ขณะทรงสิ้นพระชนม์ “ทรงทราบว่าพันธกิจของพระองค์ เวลานี้สำเร็จแล้ว” (ข้อ 28)

ขณะพระคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้บรรลุข้อเรียกร้องอันชอบธรรมของบทบัญญัติอย่างครบถ้วน ทรงแบกรับบาปของโลกไว้ในพระกายของพระองค์เอง (1 เปโตร 2:24) พระองค์ไม่เพียงแต่ปกคลุมบาปเอาไว้เท่านั้น แต่ทรง "รับความผิดบาปของโลก" (ยอห์น 1:29)

เพราะพระเยซูทรงชำระหนี้ของเราแล้ว ผ่านความเชื่อในการสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นเครื่องบูชาและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ เราจึงได้รับชีวิตนิรันดร์และมีชีวิต "อย่างครบบริบูรณ์” ได้ในวันนี้ (ยอห์น 10:10) หนี้นั้นถูกชำระแล้ว!…

ไม่มีการให้คะแนนปลอม

ลูกค้าที่ใช้บริการแอปเรียกรถสาธารณะเล่าว่า เขาต้องทนกับคนขับรถที่กินผลไม้ที่มีกลิ่นแรงที่สุดในโลก คนขับรถอีกคนที่ทะเลาะกับแฟนสาว และอีกคนที่พยายามชวนให้เขาลงทุนแชร์ลูกโซ่ ในแต่ละครั้งแทนที่จะให้คะแนนแย่ เขากลับให้คะแนนคนขับรถห้าดาวทุกครั้ง เขาอธิบายว่า “พวกเขาทั้งหมดดูเป็นคนดี ผมไม่อยากให้พวกเขาถูกไล่ออกจากแอปเพราะการให้คะแนนแย่ๆของผม” เขาให้คำวิจารณ์เท็จ โดยไม่บอกความจริงกับคนขับรถ...และคนอื่นๆ

ด้วยเหตุผลต่างๆทำให้เราไม่พูดความจริงกับผู้อื่น แต่อัครทูตเปาโลหนุนใจผู้เชื่อชาวเอเฟซัสให้พูดความจริงด้วยความรักแก่กันเหมือนผู้ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในพระคริสต์ การจะทำเช่นนี้ได้จำเป็นจะต้องมีการบ่มเพาะนิสัยแห่ง “ความชอบธรรมและความบริสุทธิ์” (อฟ.4:24) คือการดำเนินชีวิตที่แยกออกมาเพื่อพระองค์ และสะท้อนวิถีของพระองค์ พวกเขาต้องแทนที่การโกหกด้วยการพูดความจริงต่อกัน เพราะการโกหกทำให้เกิดความแตกแยกและทำลายความสัมพันธ์ ขณะที่ความจริงทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันในฐานะผู้เชื่อ ท่านเขียนว่า “เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และจงพูดความจริงต่อกัน เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน” (ข้อ 25)

พระเยซูประทานความกล้าหาญแก่เราเพื่อจะต่อต้านการโกหกและการให้ “คะแนนปลอม” แก่กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้เชื่อคนอื่นๆ เมื่อพระองค์ทรงนำเราให้ดำเนินชีวิตด้วยความรัก ก็จะทำให้เราแบ่งปันความจริงด้วยความ “เมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน” (ข้อ 32)

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา